อุปมาด้วยต้นไม้มียาง
ยังมีอยู่ในใจของภิกษุ
ภิกษุณี ก็เปรียบดังต้นไม้มียาง ถูกบุรุษใช้ขวานมีคมฟันตรงที่ใด ยางย่อมออกตรงที่นั้น
เมื่อตากระทบรูป หูกระทบเสียง จมูกกระทบกลิ่นลิ้น กระทบรสกายกระทบโผฏฐัพพะ(สัมผัส) ใจกระทบอารมณ์ เพียงเล็กน้อย เมื่อภิกษุ ภิกษุณี ยังละราคะ โทสะ โมหะไม่ได้ ราคะ โทสะ โมหะย่อมครอบงำจิตของภิกษุ ภิกษุณีนั้นได้โดยแท้ ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงตากระทบรูป หูกระทบเสียง จมูกกระทบกลิ่น ลิ้นกระทบรส กายกระทบ โผฏฐัพพะ(สัมผัส) ใจกระทบอารมณ์ที่มากกว่านั้น
ส่วนผู้ที่สิ้นราคะ โทสะ โมหะ ก็เปรียบดัง ต้นไม้มียางที่แห้ง และผุ มา ๓–๔ ปี แล้ว บุรุษใช้ขวานฟัน ก็ไม่มียางออกฉันนั้น
เมื่อตากระทบรูป หูกระทบเสียง จมูกกระทบกลิ่นลิ้น กระทบรสกายกระทบโผฏฐัพพะ(สัมผัส) ใจกระทบอารมณ์ เพียงเล็กน้อย เมื่อภิกษุ ภิกษุณี ยังละราคะ โทสะ โมหะไม่ได้ ราคะ โทสะ โมหะย่อมครอบงำจิตของภิกษุ ภิกษุณีนั้นได้โดยแท้ ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงตากระทบรูป หูกระทบเสียง จมูกกระทบกลิ่น ลิ้นกระทบรส กายกระทบ โผฏฐัพพะ(สัมผัส) ใจกระทบอารมณ์ที่มากกว่านั้น
ส่วนผู้ที่สิ้นราคะ โทสะ โมหะ ก็เปรียบดัง ต้นไม้มียางที่แห้ง และผุ มา ๓–๔ ปี แล้ว บุรุษใช้ขวานฟัน ก็ไม่มียางออกฉันนั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น