วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ปัญหา ๑๖ มาณพ อชิตมาณพ



ปัญหาอชิตมาณพ



อชิตมาณพ เป็นหัวหน้าศิษย์ของพราหมณ์พาวรี ได้กราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า
๑. โลกคือหมู่สัตว์ ถูกอะไรห่อหุ้มไว้  อะไรเป็นเหตุจึงไม่มีปัญญามองเห็น โลกไม่สดใสเพราะอะไร อะไรเป็นเครื่องฉาบทาโลกไว้ให้สัตว์โลกติดอยู่ และอะไรเป็นภัยใหญ่หลวงของโลกนั้น ? 
   พระพุทธองค์ทรงวิสัชนาว่า  

   อชิตะ ! เธอจงรู้เถิดว่า  อวิชชาเป็นศีรษะ  โลกถูกอวิชชาห่อหุ้มไว้  คือความไม่รู้ปิดบังไว้  วิชชาที่ประกอบด้วยสัทธา  สติ  สมาธิ  ฉันทะ และวิริยะ เป็นธรรมที่ทำให้ศีรษะตกไป
 โลกไม่สดใสเพราะความตระหนี่ และความประมาท   เราเรียก ความอยากว่า เป็นเครื่องฉาบทาโลกไว้  ทุกข์เป็นภัยใหญ่หลวงของโลก  
๒. อะไรเป็นเครื่องห้าม เครื่องปิดบังความอยาก ซึ่งเป็นดุจกระแสน้ำหลั่งไหลไปในอารมณ์ทั้งปวง จะละความอยากได้ด้วยธรรมอะไร ?
   พระพุทธองค์ทรงวิสัชนาว่า 

กระแสเหล่าใดในโลก  สติเป็นเครื่องกั้นกระแสเหล่านั้นได้  เรากล่าวธรรมเครื่องป้องกันกระแสทั้งหลาย  ปัญญาปิดกั้นกระแสทั้งหลายเหล่านั้นได้
๓. ปัญญา สติ นามรูปนั้น จะดับไปมีส่วนเหลือในที่ใด ณ ที่ใด ?
 พระพุทธองค์ทรงวิสัชนาว่า  
 เพราะวิญญาณดับไปก่อน นามรูปจึงดับไป ในที่นั้น ฯ
๔. ชนผู้เห็นธรรมแล้ว และผู้ยังต้องศึกษาอยู่ สองพวกนี้ยังมีอีกมาก ขอกราบทูลถามความประพฤติของปวงชนพวกนั้น ?
พระพุทธองค์ทรงวิสัชนาว่า
ภิกษุผู้เห็นธรรมแล้ว และผู้ยังศึกษาอยู่ เป็นคนไม่มีความกำหนัดยินดีในกามคุณทั้งหลาย มีใจไม่ขุ่นมัว ฉลาดในธรรมทั้งปวง มีสติอยู่ทุกอิริยาบถ ฯ


( ความตระหนี่ ได้แก่ มัจฉริยะ 5 อย่าง คือ ที่อยู่  ตระกูล  ลาภ วรรณะ  และธรรม)




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น