ปัญหาอชิตมาณพ
อชิตมาณพ เป็นหัวหน้าศิษย์ของพราหมณ์พาวรี
ได้กราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า
๑. โลกคือหมู่สัตว์ ถูกอะไรห่อหุ้มไว้ อะไรเป็นเหตุจึงไม่มีปัญญามองเห็น โลกไม่สดใสเพราะอะไร อะไรเป็นเครื่องฉาบทาโลกไว้ให้สัตว์โลกติดอยู่ และอะไรเป็นภัยใหญ่หลวงของโลกนั้น ?
พระพุทธองค์ทรงวิสัชนาว่า
๑. โลกคือหมู่สัตว์ ถูกอะไรห่อหุ้มไว้ อะไรเป็นเหตุจึงไม่มีปัญญามองเห็น โลกไม่สดใสเพราะอะไร อะไรเป็นเครื่องฉาบทาโลกไว้ให้สัตว์โลกติดอยู่ และอะไรเป็นภัยใหญ่หลวงของโลกนั้น ?
พระพุทธองค์ทรงวิสัชนาว่า
อชิตะ ! เธอจงรู้เถิดว่า “อวิชชาเป็นศีรษะ” โลกถูกอวิชชาห่อหุ้มไว้ คือความไม่รู้ปิดบังไว้ วิชชาที่ประกอบด้วยสัทธา สติ
สมาธิ ฉันทะ และวิริยะ
เป็นธรรมที่ทำให้ศีรษะตกไป
โลกไม่สดใสเพราะความตระหนี่ และความประมาท
เราเรียก ความอยากว่า เป็นเครื่องฉาบทาโลกไว้ ทุกข์เป็นภัยใหญ่หลวงของโลก
๒. อะไรเป็นเครื่องห้าม เครื่องปิดบังความอยาก ซึ่งเป็นดุจกระแสน้ำหลั่งไหลไปในอารมณ์ทั้งปวง จะละความอยากได้ด้วยธรรมอะไร ?
พระพุทธองค์ทรงวิสัชนาว่า
๒. อะไรเป็นเครื่องห้าม เครื่องปิดบังความอยาก ซึ่งเป็นดุจกระแสน้ำหลั่งไหลไปในอารมณ์ทั้งปวง จะละความอยากได้ด้วยธรรมอะไร ?
พระพุทธองค์ทรงวิสัชนาว่า
กระแสเหล่าใดในโลก สติเป็นเครื่องกั้นกระแสเหล่านั้นได้ เรากล่าวธรรมเครื่องป้องกันกระแสทั้งหลาย ปัญญาปิดกั้นกระแสทั้งหลายเหล่านั้นได้
๓. ปัญญา สติ นามรูปนั้น จะดับไปมีส่วนเหลือในที่ใด ณ ที่ใด ?
พระพุทธองค์ทรงวิสัชนาว่า
เพราะวิญญาณดับไปก่อน นามรูปจึงดับไป ในที่นั้น ฯ
๔. ชนผู้เห็นธรรมแล้ว และผู้ยังต้องศึกษาอยู่ สองพวกนี้ยังมีอีกมาก ขอกราบทูลถามความประพฤติของปวงชนพวกนั้น ?
พระพุทธองค์ทรงวิสัชนาว่า
ภิกษุผู้เห็นธรรมแล้ว และผู้ยังศึกษาอยู่ เป็นคนไม่มีความกำหนัดยินดีในกามคุณทั้งหลาย มีใจไม่ขุ่นมัว ฉลาดในธรรมทั้งปวง มีสติอยู่ทุกอิริยาบถ ฯ
๓. ปัญญา สติ นามรูปนั้น จะดับไปมีส่วนเหลือในที่ใด ณ ที่ใด ?
พระพุทธองค์ทรงวิสัชนาว่า
เพราะวิญญาณดับไปก่อน นามรูปจึงดับไป ในที่นั้น ฯ
๔. ชนผู้เห็นธรรมแล้ว และผู้ยังต้องศึกษาอยู่ สองพวกนี้ยังมีอีกมาก ขอกราบทูลถามความประพฤติของปวงชนพวกนั้น ?
พระพุทธองค์ทรงวิสัชนาว่า
ภิกษุผู้เห็นธรรมแล้ว และผู้ยังศึกษาอยู่ เป็นคนไม่มีความกำหนัดยินดีในกามคุณทั้งหลาย มีใจไม่ขุ่นมัว ฉลาดในธรรมทั้งปวง มีสติอยู่ทุกอิริยาบถ ฯ
( ความตระหนี่ ได้แก่ มัจฉริยะ 5 อย่าง
คือ ที่อยู่ ตระกูล ลาภ วรรณะ
และธรรม)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น