เมตตาจิต สูตรที่ 1
ภิกษุทั้งหลาย
! บุคคล4 จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก
1. บุคคลบางคนในโลกนี้ มีเมตตาจิต แผ่ไปตลอดทิศที่ 1
ทิศที่ 2 ทิศที่ 3ทิศที่ 4 ทิศเบื้องบน (เทวโลก)ทิศเบื้องล่าง (นรกและนาค) ทิศเฉียง (ทิศย่อยของทิศใหญ่ หรือทิศรอง) แผ่ไปตลอดโลก ทั่วทุกหมู่เหล่า
ในที่ทุกสถาน ด้วยเมตตาจิตอันไพบูลย์ เป็นมหัคคตะ(อารมณ์ถึงความเป็นใหญ่ชั้นรูปาวจร, อรูปาวจร) ไม่มีขอบเขต ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนอยู่อย่างนี้ เขาชอบใจในเมตตาฌาน ติดใจในเมตตาฌาน และถึงความปลื้มใจกับเมตตาฌานนั้น
เขาดำรงตนอยู่ในเมตตาฌานนั้นโดยมาก ไม่เสื่อม เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงการอยู่ร่วมกับเทวดาชั้นหมู่พรหม
มีอายุประมาณ 1 กัป
คนที่เป็นปุถุชนดำรงอยู่ในชั้นหมู่พรหม
จนสิ้นอายุที่กำหนดอายุของเทวดาเหล่านั้นแล้ว ไปสู่นรกบ้าง ไปสู่สัตว์เดรัจฉานบ้าง
ไปสู่แดนเปรตบ้าง ส่วนสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าดำรงอยู่ในชั้นหมู่พรหม
จนสิ้นอายุที่กำหนดอายุของเทวดาเหล่านั้นแล้ว
ปรินิพพานในภพนั้นแล นี้แลเป็นความแปลกกัน
เป็นความแตกต่างกัน เป็นเหตุให้ต่างกัน ระหว่างอริยสาวกผู้สดับ
กับปุถุชนผู้มิได้สดับ เมื่อคติ(การตาย) และอุบัติ(การเกิด)ยังมีอยู่
2. บุคคลบางคนในโลกนี้ มีกรุณาจิต แผ่ไปตลอดทิศที่ 1
ทิศที่ 2 ทิศที่ 3ทิศที่ 4 ทิศเบื้องบน ทิศเบื้องล่าง ทิศเฉียง แผ่ไปตลอดโลก
ทั่วทุกหมู่เหล่า ในที่ทุกสถาน ด้วยเมตตาจิตอันไพบูลย์ เป็นมหัคคตะ ไม่มีขอบเขต ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนอยู่อย่างนี้ เขาชอบใจในกรุณาฌาน
ติดใจในกรุณาฌาน และถึงความปลื้มใจกับกรุณาฌานนั้น
เขาดำรงตนอยู่ในกรุณาาฌานนั้นโดยมาก ไม่เสื่อม เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงการอยู่ร่วมกับเทวดาชั้นอาภัสสระ
มีอายุประมาณ 2 กัป
คนที่เป็นปุถุชนดำรงอยู่ในชั้นหมู่พรหม
จนสิ้นอายุที่กำหนดอายุของเทวดาเหล่านั้นแล้ว ไปสู่นรกบ้าง ไปสู่สัตว์เดรัจฉานบ้าง
ไปสู่แดนเปรตบ้างส่วนสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าดำรงอยู่ในชั้นหมู่พรหม
จนสิ้นอายุที่กำหนดอายุของเทวดาเหล่านั้นแล้ว ปรินิพพานในภพนั้นแล
นี้แลเป็นความแปลกกัน เป็นความแตกต่างกัน เป็นเหตุให้ต่างกัน
ระหว่างอริยสาวกผู้สดับ กับปุถุชนผู้มิได้สดับ เมื่อคติ และอุบัติยังมีอยู่
3. บุคคลบางคนในโลกนี้ มีมุทิตาจิต แผ่ไปตลอดทิศที่ 1
ทิศที่ 2 ทิศที่ 3 ทิศที่ 4 ทิศเบื้องบน ทิศเบื้องล่าง ทิศเฉียง แผ่ไปตลอดโลก
ทั่วทุกหมู่เหล่า ในที่ทุกสถาน ด้วยอุเบกขาจิตอันไพบูลย์ เป็นมหัคคตะ ไม่มีขอบเขต
ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนอยู่อย่างนี้ เขาชอบใจใน มุทิตาฌาน ติดใจในมุทิตาฌาน
และถึงความปลื้มใจกับมุทิตาฌานนั้น เขาดำรงตนอยู่ในอุเบกขาฌานนั้นโดยมาก ไม่เสื่อม เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงการอยู่ร่วมกับเทวดาชั้นสุภกิณหะ
มีอายุประมาณ 4 กัป
คนที่เป็นปุถุชนดำรงอยู่ในชั้นหมู่พรหม
จนสิ้นอายุที่กำหนดอายุของเทวดาเหล่านั้นแล้ว ไปสู่นรกบ้าง ไปสู่สัตว์เดรัจฉานบ้าง
ไปสู่แดนเปรตบ้าง ส่วนสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าดำรงอยู่ในชั้นหมู่พรหม
จนสิ้นอายุที่กำหนดอายุของเทวดาเหล่านั้นแล้ว ปรินิพพานในภพนั้นแล
นี้แลเป็นความแปลกกัน เป็นความแตกต่างกัน เป็นเหตุให้ต่างกัน
ระหว่างอริยสาวกผู้สดับ กับปุถุชนผู้มิได้สดับ เมื่อคติ และอุบัติยังมีอยู่
4. บุคคลบางคนในโลกนี้ มีอุเบกขาจิต แผ่ไปตลอดทิศที่1 ทิศที่ 2 ทิศที่ 3 ทิศที่ 4 ทิศเบื้องบน
ทิศเบื้องล่าง ทิศเฉียง แผ่ไปตลอดโลก ทั่วทุกหมู่เหล่า ในที่ทุกสถาน
ด้วยอุเบกขาจิตอันไพบูลย์ เป็นมหัคคตะ ไม่มีขอบเขต ไม่มีเวร
ไม่มีความเบียดเบียนอยู่อย่างนี้ เขาชอบใจในอุบกขาฌาน
ติดใจในอุเบกขาฌาน และถึงความปลื้มใจกับอุเบกขาฌานนั้น
เขาดำรงตนอยู่ในอุเบกขาฌานนั้นโดยมาก ไม่เสื่อม เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงการอยู่ร่วมกับเทวดาชั้นเวหัปผละ
มีอายุประมาณ 500 กัป
คนที่เป็นปุถุชนดำรงอยู่ในชั้นเวหัปผละ
จนสิ้นอายุที่กำหนดอายุของเทวดา เหล่านั้นแล้ว ไปสู่นรกบ้าง
ไปสู่สัตว์เดรัจฉานบ้าง ไปสู่แดนเปรตบ้าง ส่วนสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าดำรงอยู่ในชั้นหมู่พรหม
จนสิ้นอายุที่กำหนดอายุของเทวดาเหล่านั้นแล้ว ปรินิพพานในภพนั้นแล
นี้แลเป็นความแปลกกัน เป็นความแตกต่างกัน เป็นเหตุให้ต่างกัน ระหว่างอริยสาวกผู้สดับ
กับปุถุชนผู้มิได้สดับ เมื่อคติ และอุบัติยังมีอยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น