วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

โทษของการเสพธรรมอันไม่เป็นสัปปายะ




 โทษของการเสพธรรมไม่เป็นสัปปายะ

ภิกษุทั้งหลาย ! การเสพรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์ อันไม่เป็นสัปปายะเนืองๆ ราคะย่อมครอบงำจิตได้ และเมื่อจิตถูกราคะครอบงำ พึงถึงความตาย หรือทุกข์ปางตาย เปรียบเหมือนคนกินของแสลงอันไม่เป็นสัปปายะเนืองๆ หรือไม่รักษาบาดแผลที่ยังไม่หายสนิท

การทำกิเลสไม่ให้กลับมากำเริบอีก เมื่อพิจารณาเห็นว่าตน ละลูกศร คือ ตัณหาได้แล้ว กำจัดโทษอันเป็นพิษ คือ อวิชชา น้อมจิตไปในนิพพานอันชอบแล้ว

พึงหลีกเลี่ยง "รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์" อันไม่เป็นสัปปายะ เสีย มิฉะนั้นราคะย่อมครอบงำจิตได้ และเมื่อจิตถูกราคะครอบงำจิต พึงถึงความตาย หรือทุกข์ปางตาย

การไม่ประกอบเนืองๆ ในอารมณ์อันไม่เป็นสัปปายะ ด้วยการเสพรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์ อันไม่เป็นสัปปายะ ราคะก็ครอบงำจิตไม่ได้



(สัปปายะ หมายถึง สิ่ง สถานที่ หรือบุคคล ซึ่งเป็นที่สบาย เหมาะสม เกื้อกูล โดยเฉพาะการประคับประคองรักษาสมาธิ)




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น