อสงไขย
(จากหนังสือวิมุตติรัตนมาลี
๑ พระพรหมโมลี(วิลาศ ญาณวโร ป.ธ.๙)
อสงไขยกถา กล่าวถึงกาลเวลาที่เรียกว่า
"อสงไขย" คือ กำหนดเวลาที่มากมาย ยาวนานเกิน ที่จะนับจะประมาณได้
คำว่า "อสงไขย" แปลว่า
นับไม่ได้เปรียบดังฝนตกใหญ่มโหฬารตลอดคืน ตลอดวัน ติดต่อกัน ๓ ปี จนน้ำสูงเจิ่ง
นองท่วมท้น เต็มขอบเขาจักรวาล สูง ๘๔,๐๐๐ โยชน์
หากมีเทวดาผู้วิเศษสามารถนับเม็ดฝน และหยาดน้ำฝน
ที่กระจายเป็นฟองฝอยน้อยใหญ่ทั้งหมดได้ จำนวนเท่าใด นั่นแหละคือ อสงไขยหนึ่ง
มหากัป
มหากัปปกถา กล่าวเปรียบเทียบความยาวนานของมหากัป ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก
เอาไว้ว่า "ภูเขาสูงใหญ่กว้าง และสูงหนึ่งโยชน์ ทุก ๆ ร้อยปี มีเทวดา
ผู้วิเศษ นำผ้าทิพย์เนื้อละเอียดมาเช็ดถูครั้งหนึ่ง จนกระทั่งเขาลูกนั้นสึกเกรียน
เหี้ยนสั้นลง จนกระทั่งราบเป็นหน้ากลอง"
นั่นแหละ ! จึงนับว่าเป็น หนึ่งมหากัป
และอุปมาดัง "มีกำแพงยักษ์ กว้าง ลึกวัดได้ หนึ่งโยชน์ ทุก ๆ ร้อยปี
มีเทวดา ผู้วิเศษ นำเอาเมล็ดพันธุ์ผักกาด มาหยอดใส่กำแพงนั้น เมล็ดหนึ่ง จนกระทั่ง
เมล็ดพันธุ์ผักกาด เต็มเสมอขอบกำแพง" จึงกำหนดนับได้ว่า เป็นหนึ่งมหากัป
๑ มหากัป เท่ากับ ๔
อสงไขยกัป
๑ อสงไขยกัป เท่ากับ ๖๔
อันตรกัป
๑ อันตรกัป เท่ากับ ๑
รอบอสงไขยปี
( กัป แปลว่า กาลกำหนด
ช่วงระยะเวลาอันยาวนาน ที่กำหนดว่าโลก คือ สากลจักรวาลประลัยครั้งหนึ่ง)
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้เวลาในการสร้าง
บารมี(ระดับธรรมดา)
อุปบารมี (ระดับกลาง)
และปรมัตถบารมี (ระดับสูง) มาเป็นเวลาอันยาวนานมาก
พระองค์ปัจจุบันคือสมเด็จพระสมณโคดมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญบารมีมานานถึง
๔ อสงไขย กับ ๑๐๐,๐๐๐ มหากัป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น